|
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร |
|
|
|
|
|
งานประเพณี ออกพรรษาและแห่ประสาทผึ้งจัดเป็นงานระดับชาติ กิจกรรมก็คือจัดให้มีการแข่งเรือฝีพายหลายประเภททั้งทีมชาย หญิง ผู้ชนะ จะได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเป็นประจำทุกปี จากนั้นจะเป็นกิจกรรมการทำบุญออกพรรษา และสุดท้ายจะเป็นงานประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง โดยจะมีขบวนแห่ปราสาทผึ้งจากอำเภอ คุ้ม ส่วนราชการต่าง ๆ ส่งเข้าแห่ และจะมีการประกวดการจัดทำปราสาทมีการประกวดเทพีปราสาทผึ้งและมหรสพสมโภชและนำปราสาทผึ้งถวายตามวัดต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร การทำปราสาทผึ้งเพื่อแห่ไปถวายวัดตามประเพณีแห่ปราสาทผึ้งในวันออกพรรษาของอาจารย์สิทธิศักดิ์ กางทอง อาจารย์โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูลชาวสกลนครมีความเชื่อว่าการทำบุญด้วยการถวายต้นผึ้งเป็นบุญกุศลอย่างยิ่ง ดังนั้นในวันออกพรรษาของทุกปี ชาวคุ้มวัดต่างๆ จึงนำขี้ผึ้งไปถวายวัดเพื่อให้พระท่านได้นำไปทำเทียนน้ำมนต์และเทียนเพื่อจุดให้แสงสว่างตอนกลางคืนแรกเริ่มก็ทำโครงต้นผึ้งง่ายๆด้วยการตัดต้นกล้วยมาประดิษฐ์เป็นหอทรงตะลุ่มสี่เหลี่ยมซ้อนกัน แล้วนำขี้ผึ้งมาทำเป็นดอกผึ้งเสียบรอบๆหอที่ทำขึ้น แล้วแห่ไปถวายวัด ระยะต่อมามีการพัฒนาโครงด้วยไม้เป็นทรงสิม คือมีเสา 4 เสา มีหน้าจั่ว 4 ด้าน แล้วเอาก้านกล้วยติดรอบๆโครงไม้ จึงเอาดอกผึ้งเสียบบนก้านกล้วยอีกที ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง ถือว่าเป็นประเพณีที่สำคัญและยิ่งใหญ่ประจำปีของจังหวัดสกลนคร ดังนั้นเมื่อถึงคราวออกพรรษาทุกๆปี คุ้มวัดต่างๆ จึงเชิญชวนช่างที่เก่งๆ มาทำปราสาทผึ้งให้ แล้วแห่ไปรอบๆเมือง เพื่อประกวดชิงถ้วยพระราชทาน ประเพณีการแห่ปราสาทผึ้ง ประเพณีของชาวอีสาน ถือว่าการทำบุญด้วยการถวายต้นผึ้ง เป็นบุญกุศลสูงส่ง ดังนั้นในการถวายทานให้แก่ผู้ตายในงานแจกข้าว (งานทำบุญให้ผู้ตาย) เมื่อถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์แล้ว ก็ถวายหอผึ้งเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้วายชนม์ ต่อมา ประเพณีดังกล่าวได้มีกลุ่มคนจัดขึ้นมาอย่างใหญ่โตด้วยความศรัทธาในเทศกาลออกพรรษา พระพุทธเจ้าจะเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อมาโปรดเวนัยสัตว์ในโลกมนุษย์ให้พ้นทุกข์ด้วยประเพณีดังกล่าว กลุ่มชาวเมืองสกลนครที่มีคุ้มวัดต่าง ๆ จึงได้จัดทำหอผึ้ง หรือปราสาทผึ้ง ถวายที่วัดพระธาตุเชิงชุมเป็นประจำทุกปี ด้วยความเชื่อหลายประการ คือ 1) พุทธศาสนิกชนเชื่อกันว่า การทำบุญในวันออกพรรษา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเปิดโลกทั้งสามให้มองเห็นความเป็นอยู่ซึ่งกันและกัน และโดยพุทธานุภาพแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวบ้านได้มองเห็นหอผึ้งที่ตนทำถวาย 2) วัดพระธาตุเชิงชุมเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พระพุทธเจ้ามาประชุมรอยพระพุทธบาทถึง 4 พระองค์ และได้มีการสร้างพระธาตุเชิงชุมครอบรอบพระพุทธบาทนั้นไว้ การนำหอผึ้งมาถวายเป็นพุทธบูชารอยพระพุทธบาทย่อมเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง 3) เป็นการทำบุญที่ญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกลได้มาพบกัน ได้มีโอกาสทำบุญร่วมกัน และร่วมประเพณีแข่งเรืออย่างสนุกสนาน ปราสาทผึ้งของจังหวัดสกลนคร ได้พัฒนารูปแบบของการทำปราสาทผึ้ง ออกเป็น 3 ระยะดังนี้คือ (1) ระยะแรกยุคต้นผึ้งหรือหอผึ้ง เป็นต้นกำเนิดของปราสาทผึ้งในปัจจุบัน ทำจากต้นกล้วย ตัดให้ยาวพอสมควรทำขาหยั่งสามขายึดต้นกล้วยเข้าไว้ จากนั้นจะนำขี้ผึ้งมาเคี่ยวให้หลอมเหลวใส่ลงในแม่พิมพ์ เรียกว่าดอกผึ้ง แล้วนำมาติดที่ก้านกล้วยหรือกาบกล้วย ซึ่งต่อมาได้ทำเป็นหอผึ้ง มีลักษณะเป็นทรงตะลุ่ม ทำโครงด้วยไม้ไผ่ผูกเสริมด้วยกาบกล้วย ก้านกล้วย จะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมสองชั้น ต่อกันคล้ายเอวขันธ์หรือเอวพาน การตกแต่ง ยังนิยมประดับด้วยดอกผึ้ง ตามโครงกล้วย (2.) ระยะที่สองยุคปราสาทผึ้งทรงหอ-ทรงสิมหรือศาลพระภูมิ ได้มีพัฒนาการทำโครงเป็นโครงด้วยไม้ โดยใช้ไม้เนื้ออ่อนทำเป็นเสาสี่ต้น พันด้วยกระดาษสี เครื่องบนทำเป็นหลักคล้ายหมาก แต่งหน้าจั่วด้วยหยวกกล้วยประดับดอกผึ้ง ในส่วนปราสาทผึ้งทรงสิมจะลดความสูงลง ทำหน้าจั่วทรงจตุรมุขตามแบบสิมพื้นบ้านของภาคอีสานโดยทั่วไป การประดับตกแต่งใช้วิธีการแทงหยวกประดับป้านลม ช่อฟ้า ใบระกา ด้วยดอกผึ้งตามส่วนต่าง ๆ (3) ยุคปราสาทผึ้งเรือนยอด เป็นการทำปราสาทผึ้ง โดยการพัฒนารูปแบบลวดลายองค์ประกอบให้วิจิตรพิศดารยิ่งขึ้น ด้วยโครงไม้ ให้เป็นทรงปราสาทจตุรมุขมีเรือนยอดเรียวหรือที่เรียกว่า "กฎาคาร” ตัวอาคารทั้งสี่ด้านต่อเป็นมุขยื่นออกไปมีขนาดเท่ากับบางแห่งสร้างปราสาทสามหลังติดกัน นอกจากนี้ยังเน้นความประณีตในการตกแต่งผึ้งให้งดงาม เช่นกำแพงแก้ว หน้าบัน ช่อฟ้าใบระกา นาคสะดุ้ง โดยใช้ศิลปกรรมไทยหรือผสมผสานระหว่างศิลปะอีสานกับไทยภาคกลาง เป็นการสร้างปราสาทที่เลียนแบบที่ประทับพระมหากษัตริย์ เพื่อถวายแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดับตกแต่งมีทั้งแบบหล่อแกะลาย และแบบติดพิมพ์สมัยใหม่ การแห่ปราสาทผึ้งจะมีอยู่ 2 ส่วน คือในวันขึ้น 14 ค่ำเดือน 11 จะเป็นการนำปราสาทผึ้งไปชุมนุมกันเพื่อฉลองคบงัน 1 วัน 1 คืน ในวันรุ่งขึ้น เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จะเป็นวันแห่ปราสาทผึ้งไปทอดถวาย ณ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ซึ่งจะมีขบวนแห่อย่างสวยงาม ประกอบด้วยการแสดงพื้นบ้านต่าง ๆ ของสภาวัฒนธรรมอำเภอทุกอำเภอ เช่น การแต่งกาย 6 เผ่า การรำมวยโบราณการฟ้อนถูไท(ผู้ไทย) การแสดงดนตรีพื้นเมืองการแสดงถึงวิถีชีวิตของคนสกลนครซึ่งเป็นประเพณีที่มีความสนุกสนานแต่ในขณะเดียวกันได้แสดงออกถึงความเชื่อในพระพุทธศาสนาเป็นสำคัญและถือเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของจังหวัด สกลนคร |
|
ปฏิทินกิจกรรม
|
|
« |
พฤษภาคม 2567 |
» |
อา. |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ. |
ศ. |
ส. |
| | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
31 | |
ดูปฏิทินทั้งหมด |
|
|
|
|
|
|
|
อาคารพิพิธภัณฑ์จังหวัด ถนนศูนย์ราชการ ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือสกลนคร จังหวัดสกลนคร ๔๗๐๐๐ |
โทร.๐๔๒-๗๑๖-๒๔๗ โทรสาร.๐๔๒-๗๑๖-๒๑๔ |
สายด่วนวัฒนธรรม |
|
Copyright © 2015 m-culture.go.th กระทรวงวัฒนธรรม |
|
|