องค์ความรู้ทางวัฒนธรรม >> ประเพณีท้องถิ่น
งานเทศกาลลอยพระประทีปพระราชทานสิบสองเพ็งไทสกล จังหวัดสกลนคร

วันที่ 2 มี.ค. 2565

                              ประวัติการจัดงานเทศกาลลอยพระประทีปพระราชทาน สิบสองเพ็งไทสกล
           เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จ     พระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ ๑ เดือนในห้วงเดือนตุลาคม- พฤศจิกายนและได้ทรงประทับแรมที่เขื่อนชลประทานน้ำอูน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ อัครราชกุมารี เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์เนื่องจากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์สร้างเสร็จสมบูรณ์ และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นปีที่ ๒ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ จังหวัดสกลนครโดยเทศบาลเมืองสกลนครได้จัดทำเครื่องสักการะทูลเกล้าฯ ถวายทุกพระองค์ที่เสด็จแปรพระราชฐานมาถึงในวันแรก ให้ทุกพระองค์ทรงใช้เครื่องสักการะนั้น เพื่อสักการะหลวงพ่อองค์แสนและองค์พระธาตุเชิงชุม เมื่อขบวนรถพระที่นั่งถึงประตูเมือง โดยคำแนะนำของข้าราชการผู้ใหญ่ที่ติดตามเสด็จฯ ที่ให้คำปรึกษาหารือแก่คณะกรมการจังหวัด ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ จังหวัดสกลนครได้รับคำแนะนำจากข้าราชการผู้ใหญ่ที่ติดตามเสด็จฯ ว่า ในห้วงเวลา ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จแปรพระราชฐานทุกปีจะอยู่ในช่วงของเทศกาลลอยกระทงจึงน่าจะมีการขอพระราชทานพระประทีปมาลอยร่วมกับพี่น้องชาวจังหวัดสกลนคร เนื่องจากงานประเพณีลอยกระทงของชาวจังหวัดสกลนครได้จัดทำทุกปีมีความยิ่งใหญ่ หากได้รับพระราชทานพระประทีปมาลอยก็จะเป็นสิริมงคลและปลื้มปิติยินดียิ่ง ดังนั้น จังหวัดสกลนคร จึงได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาฯ ขอพระราชทานพระประทีปเพื่ออัญเชิญลงลอยเป็นสิริมงคลแก่พสกนิกรในปีถัดไปคือ ปี พ.ศ.๒๕๒๒
           ดังนั้น ในปี พ.ศ.๒๕๒๒ จังหวัดสกลนครจึงได้รับพระราชทานพระประทีปเป็นครั้งแรก จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ได้ทรงเสด็จแปรพระราชฐานที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์เท่านั้น ส่วนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อยู่ระหว่างเสด็จไปศึกษายังต่างประเทศ สำหรับพระประทีปจะอัญเชิญจากสำนักพระราชวัง กทม.โดยพาหนะเครื่องบินมายังพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์พระราชทานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมภริยาและคณะเพื่ออัญเชิญลงลอยที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ต่อไป
          ในปี พ.ศ.๒๕๒๓-๒๕๒๔ จังหวัดได้มีหนังสือไปยังสำนักพระราชวังเพื่อกราบบังคมทูลพระกรุณาฯเช่นเดิม และได้รับพระราชทานเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ทางกองราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ได้แจ้งให้จังหวัดจัดรถยนต์ไปอัญเชิญพระประทีปที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง กรุงเทพมหานครมายังพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จากนั้นก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมภริยาและคณะเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานพระประทีปจากพระหัตถ์ของล้นเกล้าฯ ทั้ง ๔ พระองค์ ในปี พ.ศ.๒๕๒๕ สำหรับการได้รับพระราชทานพระประทีปได้เปลี่ยนแปลงจากเดิม เนื่องจากท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์ ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เห็นว่า ตามที่จังหวัดได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาฯ ขอพระราชทานพระประทีปเหมือนปีที่ผ่านมา จังหวัดต้องรับภาระหนักในการเดินทางไปอัญเชิญพระประทีปพระราชทานจาก กทม.เหมือน ๒ ปีที่ผ่านมา จึงให้โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูลจัดส่งครู/อาจารย์แผนกคหกรรมของโรงเรียนไปฝึกประดิษฐ์กระทงจากเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวัง และเป็นเหตุให้สำนักพระราชวังได้มอบหมายให้โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูลจัดทำและประดิษฐ์พระประทีปขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ จากนั้นก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมภริยาและคณะเข้ารับพระราชทาน เพื่ออัญเชิญเข้าขบวนแห่ลงลอยที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ซึ่งในปีนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ตามเสด็จแปรพระราชทานมายังพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์และได้พระราชทานพระประทีปเป็นปีแรกด้วย รวมเป็น ๕ พระองค์และต่อมาจังหวัดได้ขอพระราชทานจากพระบรมวงศานุวงศ์เรื่อยมา ดังรายละเอียดดังนี้
         ในปี พ.ศ.๒๕๔๙ จากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร 
         ในปี พ.ศ.๒๕๕๑ จากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารพระราชทานได้รับพระราชทาน ๓ พระองค์ คือพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา,พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ และในปีนี้ได้รับประทานจากพระเจ้า วรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ 
        ในปี พ.ศ.๒๕๕๒ จากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทานในนามพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ในปี พ.ศ.๒๕๕๖ จากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทานในนามพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ดังนั้นในปี ๒๕๕๖ จึงมีพระประทีปฯ ครบทั้ง ๑๓ พระองค์
        ในปี พ.ศ.๒๕๕๘ เนื่องจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ภายหลังได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ อันมีผลตั้งแต่ วันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗ใน ปี พ.ศ.๒๕๕๘ จึงมีพระประทีป ทั้งสิ้น ๑๒ พระองค์
         ในปี พ.ศ.๒๕๖๐ เนื่องจากในวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๙ เป็นวันแห่งการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ของพสกนิกรชาวไทย ทำให้ในปี พ.ศ.๒๕๖๐ ได้ขอพระราชทานพระประทีปจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระบรมวงศานุวงศ์ ทั้งสิ้น ๑๑ พระองค์ จนถึงปัจจุบัน การจัดงานในครั้งแรกก็ให้ชื่อว่า "ลอยกระทงพระประทีป” จังหวัดสกลนครได้มอบหมายให้ส่วนราชการหน่วยงานต่างๆ จัดขบวนแห่ไฟพระราชทานและพระประทีปเพื่อลงลอย ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สกลนคร (สระพังทอง)โดยมีโรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดและเทศบาลสกลนครเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำพระประทีปและขบวนแห่อัญเชิญ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๒ คณะอนุกรรมการวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร ได้มีการนำเสนอให้มีการเปลี่ยนชื่องานเพราะเห็นว่าชื่อเดิมไปสอดคล้องกับชื่องานของจังหวัดอื่น ซึ่งที่ประชุมในขณะนั้นเสนอให้มีการตัดคำว่ากระทงออกให้เหลือแต่ "ลอยพระประทีป” จนถึงปี พ.ศ.๒๕๔๖ นายปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้เสนอแนะว่าชื่องานเดิมค่อนข้างที่จะไม่ดึงดูดและเร้าใจมากเท่าใดนัก น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงชื่องานโดยนำภาษาท้องถิ่นมาประกอบให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นจึงได้มีการเปลี่ยนชื่องานเป็น"เทศกาลลอยพระประทีปพระราชทาน สิบสองเพ็งไทสกล”(คำว่า"สิบสองเพ็ง”ก็คือวันเพ็ญเดือนสิบสองของชาวอีสาน"ไทสกล”ก็คือพี่น้องชาวสกลนคร) นั่นเอง และใช้ชื่อการจัดงานว่า "งานเทศกาลลอยพระประทีปพระราชทาน สิบสองเพ็งไทสกล” จนถึงปัจจุบัน
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic
pic

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว



ปฏิทินกิจกรรม
« พฤษภาคม 2567 »
อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
    1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31
ดูปฏิทินทั้งหมด


อาคารพิพิธภัณฑ์จังหวัด ถนนศูนย์ราชการ ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือสกลนคร จังหวัดสกลนคร ๔๗๐๐๐

โทร.๐๔๒-๗๑๖-๒๔๗  โทรสาร.๐๔๒-๗๑๖-๒๑๔
สายด่วนวัฒนธรรม
Copyright © 2015 m-culture.go.th กระทรวงวัฒนธรรม